ประโยชน์แท้แก่มหาชน
1. นำผลการศึกษาขี้กาแดงวิเคราะห์ “ ศักยภาพ” ด้านต่างๆ เช่น รูปลักษณ์ คุณสมบัติ พฤติกรรม
2. กำหนดแนวคิด สู่การใช้ประโยชน์
3. สรรสร้างแนวทาง วิธีการ สู่การใช้ประโยชน์นั้น
ประโยชน์แท้แก่มหาชน วิเคราะห์ศักยภาพของผักโขมหัดด้านต่างๆ เช่น ด้านรูปลักษณ์ ด้านคุณสมบัติ ด้านพฤติกรรม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์ต่อคน ต่อสังคม ต่อแผ่นดินทั้งสิ้น การที่จะมองเห็นและนำไปใช้ประโยชน์นั้นต้องวิเคราะห์ศักยภาพ ราก ลำต้น ใบ ดอก ผล เมล็ด ของพืชผักโขมหัดด้านรูปลักษณ์ ด้านคุณสมบัติ ด้านพฤติกรรมแล้วจินตนาการสร้างสรรค์สู่การใช้ประโยชน์แก่มหาชน ซึ่งในการศึกษาและวิเคราะห์ศักยภาพดังกล่าว สรุปได้ดังนี้
วิเคราะห์ศักยภาพด้านคุณสมบัติรากผักโขมหัด ---> จินตนาการ ---> สร้างสรรค์
ความเหนียวของราก ---> ออกแบบโคมไฟผักโขมหัด---> ประดิษฐ์โคมไฟ
วิเคราะห์ศักยภาพด้านสีของใบผักโขมหัด---> จินตนาการ ---> สร้างสรรค์
สีของใบ ---> ออกแบบเมนูอาหาร ---> ทำข้ามันผักโขมหัด ---> คุกกี้ผักโขมหัด
วิเคราะห์ศักยภาพด้านรูปลักษณ์ของดอกผักโขมหัด ---> จินตนาการ ---> สร้างสรรค์
รูปทรงของดอก ---> ออกแบบเครื่องประดับ ---> ทำเครื่องประดับ
วิเคราะห์ศักยภาพด้านรูปลักษณ์ของผักโขมหัด ---> จินตนาการ ---> สร้างสรรค์
รูปทรงของเมล็ด --- > ออกแบบเครื่องประดับ ---> ทำเครื่องประดับ
ข้าวมันผักโขม
ส่วนผสม
1. ข้าวหอมมะลิเก่า 1 ½ ถ้วยตวง
2. ใบผักโขม (spinach) 75 กรัม กำเล็ก ๆ
3. กะทิกระป๋อง ½ ถ้วย หรือ 125 มล.
4. น้ำตาลทราย 1 + ½ ช้อนโต๊ะ
5. เกลือ 1 ช้อนชา
6. น้ำเปล่า 2 ถ้วย (แบ่งเป็น 2 ส่วน 1 + ½ ถ้วย และ ½ ถ้วย)
วิธีทำ
1. ล้างข้าวสารใส่กระชอน พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. นำน้ำเปล่า ½ ถ้วย และผักโขม ไปปั่นให้ละเอียด แล้วนำไปกรองด้วยกระชอนตาถี่ ถ้าต้องการสีเขียวเนียน ๆ กรองด้วยผ้าขาวบางไปเลยค่ะ จะได้น้ำผักโขมใส ๆ เลย ไม่มีกากฝุ่นเล็ก ๆ หลงมา กรองให้ได้น้ำ ½ ถ้วย พักไว้
3. ผสม กะทิ (1/2 ถ้วย) น้ำเปล่าที่เหลือ (1 + 1/2 ถ้วย) และน้ำผักโขม ½ ถ้วย ตามด้วยน้ำตาลและเกลือ คนให้เข้ากัน และน้ำตาลละลาย ใช้ตะกร้อมือไปเลยค่ะ เพราะกะทิจากกระป๋องจะค่อนข้างข้น นำไปกรองด้วยกระชอยตาถี่หลาย ๆ ครั้ง (กรองด้วยผ้าขาวบางจะดีกว่า)
4. นำข้าวสารที่ซาวน้ำไว้ใส่หม้อหุงข้าว ตามด้วยส่วนผสมน้ำกะทิผักโขม หุงข้าวไปซัก 10 นาที ใช้ทัพพีตักข้าวคนข้าวกับน้ำกะทิ เพื่อสีเขียวของผักโขมจะได้กระจายเข้าเนื้อข้าว ได้ทั่วถึง แล้วหุงต่อจนข้าวสุก
· ส่วนผสมน้ำ อาจจะดูมากกว่าการหุงข้าวตามปกติ แต่ไม่ต้องตกใจค่ะ เพราะข้าวเวลาหุงกับกะทิและน้ำตาล แล้วจะสุกยากกว่าการหุงข้าวโดยปกติ....
ขอบคุณภาพสวยๆ และไอเดียดีๆจาก http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tastypastry&month=09-2010&date=07&group=1&gblog=43
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น